เมื่อรู้จักความน่าสนใจของ Forex แล้ว ต่อไปก็มาดูชนิดของการเทรดกัน การเทรดแบ่งได้ 4 แบบ โดยแบ่งจากระยะเวลาในการถือ Position
1. Scalping Trade เป็นการเทรดที่ใช้เวลาถือ Position น้อยที่สุด ใน4 ชนิดการเทรด ถ้าแปลตรงตัว คือการปอกเปลือกผลไม้ คือไม่หวังกาไรมาก ค่อยๆ ปอก(ลอก)กาไรทีละนิดๆ จากการเทรด อาศัยเซนส์ ความตอบสนองอย่างรวดเร็วในการเทรด และเนตเวิร์ค+ซิสเต็มต้องมีความเร็วสูง
● ข้อดี ทาการเทรดในเวลาสั้นๆ ถึงแม้จะขาดทุนก็ไม่มาก แล้วเวลาในการถือ Position น้อย อ่านกราฟง่าย
● ข้อเสีย ได้กาไรน้อย และต้องคอยจ้องกราฟ+หน้าจอตลอดเวลา ไม่ได้ Swap
● เวลาในการถือ Position ไม่กี่วินาที หรือ ไม่กี่นาที
2. Day Trade ใช้เวลาถือ Position มากกว่าแบบแรก จะทาการเทรดภายใน 1 วัน 1ชั่วโมงครั้ง หรือ หลายๆ ชั่วโมงครั้ง จะไม่ถือ Position ข้ามคืน
● ข้อดี เนื่องจากถือ Position นานกว่าแบบแรก จึงทาให้มีโอกาสได้กาไรจากการเทรดที่สูงกว่า กราฟอ่านไม่ยากมาก เนื่องจากเป็นกราฟระยะสั้น ไม่ต้องจ้องจอคอมตลอดเวลา
● ข้อเสีย คงเป็นที่บัญชีของDay Tradeบางบริษัทที่จะบังคับตัด Position หลัง 1วัน และไม่ได้ ค่า Swap
● เวลาในการถือ Position หลายนาที หลายชั่วโมง แต่ภายใน 1 วัน
3. Swing Trade แบบที่ 3 ก็จะมีระยะเวลาในการถือ Position มากขึ้นไปอีก จะถือPosition หลายๆวัน หรือหลายๆ สัปดาห์ ก็จะได้กาไร 2 ทางถ้าเราเก็งค่าเงินถูก คือ ค่าSwap และกาไรจากค่าเงิน
● ข้อดี ได้ค่า Swap และ เนื่องจากถือ Position ไว้นานจึงมีโอกาสได้กาไรมาก ไม่ต้องคอยดูจอคอมและกราฟตลอดเวลา
● ข้อเสีย กราฟจะอ่านยากขึ้น และอาจจะต้องในการวิเคราะห์ทาง Fundamental เข้ามาช่วย เนื่องจากเริ่มเป็นกราฟระยะยาว แน่นอนว่ามีโอกาสได้กาไรมากก็จริง ความเสี่ยงที่จะขาดทุนก็มีมากตามไปด้วย และที่สาคัญถึงแม้จะได้ค่า Swap ทุกวัน แต่บางคู่เงินก็จะมี Swap เป็น ลบ ก่อนซื้อจึงต้องศึกษาดีๆ
● เวลาในการถือ Position หลายวัน หลายสัปดาห์ หลายเดือน
4.Swap Trade การเทรดแบบสุดท้าย เป็นการเทรดที่ต่างจากแบบอื่นๆ โดยจะเน้นไปที่การหวังกาไรจากค่า Swap (ส่วนต่างดอกเบี้ยของธนาคารแต่ละประเทศ รายละเอียดของ Swap ไว้จะอธิบายทีหลังนะคะ) จะคือเงินเก็บในรูปแบบเงินตราต่างประเทศนั่นเอง แต่ข้อดีกว่าคือได้ ค่า Swap เข้าบัญชีทุกวัน และมีระบบ Leverage ที่ทาให้เราเล่นจานวนเงินได้มากกว่าเงินทุนจริงที่เรามี
● ข้อดี ได้ค่า Swapเข้าบัญชีทุกวัน และไม่ต้องดูจอคอม และเชคค่าเงินตลอดเวลา
● ข้อเสีย ได้ค่า Swap มากก็จริง แต่ถ้าในภายหลังค่าเงินไม่เป็นไปตามที่เราคาดก็มีโอกาสขาดทุนได้ เนื่องจากต้องถือ Postion ระยะยาวเป็นปี หรือหลายปี จึงต้องใช้การวิเคราะห์ทาง Fundamental เข้ามาช่วย คาดการยากกว่ากราฟระยะสั้น อ้อ คู่เงินที่ Swap เป็น ลบก็มี ต้องศีกษาดีๆ เช่นกัน
● เวลาในการถือ Position 1ปีขึ้นไป
การจะเลือกเทรดแบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ สไตล์การเทรดของเทรดเดอร์แต่ละคน ส่วนผู้เขียนเหรอ.. อืม ออกจะเป็น Day Trade + Swing Trade ยังหาสไตล์การเทรดของตัวเองอยู่เลย ความกล้าในการตัดสินใจ + ประสบการณ์ในการอ่านกราฟมีน้อย เลยพยายามจะเทรดสไตล์ที่ไม่ต้องดูกราฟตลอดเวลา
SpyLove.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น