วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

# สำหรับผู้เริ่มต้นเทรด Forex

ฟอเร็กซ์ (Forex) คืออะไร
Forex (Foreign Exchange Market) หรือเรียกสั้นๆว่า FX เป็นตลาดในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่างๆ ซึ่ง Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลกกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อวันซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นทั้งโลกมารวมกัน ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ตลอด 24 ชั่วโมงและหยุดการซื้อขายในวันเสาร์อาทิตย์ ตลาดใหญ่ๆของโลกจะมีอยู่ 3 แห่งก็คือ ตลาดโตเกียว ตลาดลอนดอน และตลาดนิวยอร์ค ซึ่งเวลาทำการเมื่อเทียบกับเวลาประเทศไทยก็จะเป็นดังนี้ (ถ้าอยู่ในช่วงฤดูหนาวก็ให้เพิ่มอีก 1 ชั่วโมง)

ตลาดออสเตรเลีย (AUD) เวลา 5:00 – 13:00
ตลาดญี่ปุ่น (JPY) เวลา 7:00 – 14:00
ตลาดยุโรป (EUR) เวลา 13:00 – 21:00
ตลาดสวิส (CHF) เวลา 13:00 – 21:00
ตลาดอังกฤษ (GBP) เวลา 14:00 – 22:00 
ตลาดอเมริกา (USD) เวลา 19.00 - 3:00

สกุลเงิน
สกุลเงินหลักๆที่ทำการซื้อขายนั้นก็จะมีอยู่ 7 สกุลเงินด้วยกันก็คือ 
- ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD) 
- ยูโร (EUR) 
- ปอนด์ (GBP) 
- เยน (JPY) 
- ดอลลาร์แคนาดา (CAD) 
- สวิสฟรังค์ (CHF) 
- ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)

     การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex นั้นจะทำกันเป็นคู่ๆ (Currency Pair) ซึ่งคู่ของสกุลเงินหลักหรือที่เรียกว่า Major นั้น จะมีอยู่ 4 สกุลด้วยกันคือ GBP/USD, EUR/USD, USD/CHF, USD/JPY ซึ่งสกุลเงินที่อยู่ข้างหน้าจะเรียกว่า Base Currency และตัวหลังเรียกว่า Counter Currency เช่นคู่ GBP/USD ก็จะมี GBP เป็น Base Currency และ USD เป็น Counter Currency ส่วนความหมายนั้นก็ให้จำง่ายๆว่าตัว Base Currency จะมีค่าเป็น 1 เสมอ สมมติว่าราคาของคู่ GBP/USD เป็น 1.5000 ก็จะหมายความว่า 1 ปอนด์มีค่าเท่ากับ 1.5 ดอลลาร์

Pip
Pip คือจำนวนจุดที่น้อยที่สุดของคู่เงินนั้นๆ ตัวอย่างเช่นราคาของคู่ GBP/USD จะมีทศนิยม 4 จุด เช่น 1.5000 เพราะฉะนั้น 1 pip ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.0001 ส่วนราคาของคู่ที่มีสกุลเงินเยนอยู่จะมีทศนิยม 2 จุด เช่นราคาของคู่ USD/JPY เป็น 110.00 ดังนั้น 1 pip ของคู่นี้ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.01

Lot
ขนาดของสัญญาที่จะทำการซื้อขายกันนั้นเรียกว่า lot ขนาดของสัญญาก็จะมี 3 ประเภทคือ Standard lot, Mini lot และ Micro lot ซึ่ง 1 standard lot จะเท่ากับ 10 mini lot และ 1 mini lot จะเท่ากับ 10 micro lot ถ้าจะเทียบเป็นดอลลาร์ก็จะได้คร่าวๆว่า

ที่ 1 standard lot ทุกๆ 1 pip จะมีค่าเท่ากับ $10
ที่ 1 mini lot ทุกๆ 1 pip จะมีค่าเท่ากับ $1
ที่ 1 micro lot ทุกๆ 1 pip จะมีค่าเท่ากับ $0.1

ถ้าเทียบกับบัญชีของ FXClearing ก็จะมีค่าดังนี้
บัญชีไมโคร ที่ 10 lot ทุกๆ 1 pip จะมีค่าเท่ากับ $1
บัญชีมินิ, ECN ที่ 0.1 lot ทุกๆ 1 pip (ทศนิยมจุดที่ 4) จะมีค่าเท่ากับ $1
บัญชีนาโน ที่ 100 lot ทุกๆ 1 pip จะมีค่าเท่ากับ $1

Spread
Spread คือผลต่างของราคา Bid และ ราคา Ask หน่วยเป็นจำนวนจุด ซึ่งราคา Ask ก็คือราคาที่เราจะทำการซื้อและราคา Bid ก็คือราคาที่เราจะทำการขาย ซึ่งราคา Bid จะน้อยกว่าราคา Ask เสมอ ตัวอย่างเช่นคู่ EUR/USD มีราคา Bid เป็น 1.5540 ราคา Ask เป็น 1.5541 ดังนั้น Spread จะมีค่าเท่ากับ 1 จุด ซึ่ง Spread ก็เปรียบเสมือนกับค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ที่คิดกับเรานั่นเอง ยิ่งน้อยยิ่งดี

Margin
Margin เปรียบเสมือนกับค่ามัดจำที่เราต้องใช้ในการเปิด Order แต่ละครั้ง และก็จะเพิ่มกลับเข้าไปในบัญชีเหมือนเดิมเมื่อทำการปิดออเดอร์ ยิ่งใส่จำนวน Lot ในการเปิดออเดอร์มากเท่าไหร่ จำนวน Margin ที่ใช้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

Leverage
Leverage จะเป็นตัวกำหนด Margin ที่เราใช้ในการเปิดออเดอร์แต่ละครั้ง Leverage โดยปกติจะมีให้เลือกตั้งแต่ 1:100 จนถึง 1:500 ยิ่ง Leverage มาก จำนวน Margin ที่ใช้ก็จะน้อยลง สำหรับจำนวน Margin ที่ต้องใช้ก็คิดง่ายๆก็คือที่ Leverage 1:500 ถ้าเราเทรดที่ 0.1 lot (1 pip เท่ากับ $1) จะใช้ Margin ประมาณ $20-$30 ถ้าเป็น Leverage 1:100 ก็จะใช้ Margin เท่ากับ $100 - $150 ($20*5 - $30*5) ซึ่งค่า Margin ที่ใช้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามราคาของสกุลเงิน สามารถคำนวณ Margin ที่ใช้ของคู่สกุลเงินต่างๆได้ที่http://www.forexrazor.com/Tools/Resources/Forex-Margin-Calculator.aspx

Swap
Swap คือดอกเบี้ยที่เราจะได้หรือเสียไปเมื่อเราทำการเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ข้ามคืน (ช่วงตี 4 เวลาประเทศไทย) ค่า Swap ของแต่ละสกุลเงินสามารถเข้าไปดูได้ที่ MT 4 -> หน้าต่าง Market Watch -> คลิกขวา เลือก Symbols -> เลือกสกุลเงินที่ต้องการ -> กดปุ่ม Properties จะแสดงค่า Swap Long (ค่า Swap สำหรับออเดอร์ซื้อ) และ Swap Short (ค่า Swap สำหรับออเดอร์ขาย) มีหน่วยเป็น pip คืนวันเสาร์และอาทิตย์ไม่มีการคิดค่า Swap แต่จะไปทบในคืนวันพุธแทนซึ่งค่า Swap คืนวันพุธจะมีค่าเป็น 3 เท่าของค่า Swap ปกติ สำหรับ FXClearing ทุกบัญชีจะไม่คิดค่า Swap ยกเว้นบัญชี ECN ที่สามารถเลือกให้คิดหรือไม่คิดก็ได้

การวิเคราะห์
สำหรับการวิเคราะห์การเทรดก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) และปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis)

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานก็คือการวิเคราะห์ข่าวต่างๆที่เกิดขึ้น ที่เว็บไซต์http://www.forexfactory.com ก็จะมีการอัพเดทข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับ Forex อยู่ตลอดเวลาซึ่งก็จะมีลำดับความสำคัญของข่าวด้วย ยิ่งเป็นข่าวที่มีความสำคัญมากก็จะมีผลกระทบกับราคาได้มาก

การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคก็จะเป็นการวิเคราะห์จากรูปแบบของกราฟเป็นหลัก โดยดูจากรูปแบบของกราฟว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร แนวรับแนวต้านอยู่ตรงไหน และมีการใช้อินดิเคเตอร์ต่างๆมาช่วยในการวิเคราะห์ด้วย เช่น Moving Average, Fibonacci, RSI ซึ่งอินดิเคเตอร์พื้นฐานที่ใช้โดยทั่วไปก็จะมีให้เลือกใช้ในโปรแกรมเทรด

ตัวอย่างการซื้อขาย
สมมติที่คู่ GBP/USD มีราคาปัจจุบันเป็น 1.5000 ก็จะหมายความว่า 1 ปอนด์มีค่าเท่ากับ 1.5 ดอลลาร์ ถ้าเราคิดว่าในอนาคต 1 ปอนด์จะมีค่ามากกว่า 1.5 ดอลลาร์ ก็ให้เราทำการเปิดออเดอร์ซื้อ ถ้าในอนาคตราคาที่คู่นี้เป็น 1.5010 แล้วเราทำการปิดออเดอร์นี้ เราก็จะได้กำไรมา 10 จุด ถ้าเราใส่ Volume เป็น 0.1 lot ตอนเปิดออเดอร์ (แต่ละจุดเท่ากับ $1) กำไร 10 จุดก็จะเท่ากับ $10 แต่ถ้าราคาตกลงมาเป็น 1.4990 เราก็จะขาดทุน $10 

ตรงกันข้าม ถ้าเราคิดว่าในอนาคต 1 ปอนด์จะมีค่าน้อยกว่า 1.5 ดอลลาร์ ก็ให้เราทำการเปิดออเดอร์ขาย (สามารถเปิดออเดอร์ขายได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องเปิดออเดอร์ซื้อก่อน) ถ้าในอนาคตราคาที่คู่นี้เป็น 1.4990 แล้วเราทำการปิดออเดอร์นี้ เราก็จะได้กำไรมา 10 จุด ถ้าเราใส่ Volume เป็น 0.1 lot ตอนเปิดออเดอร์ (แต่ละจุดเท่ากับ $1) กำไร 10 จุดก็จะเท่ากับ $10 แต่ถ้าราคาขึ้นมาเป็น 1.5010 เราก็จะขาดทุน $10

MetaTrader 4 (MT4)
MT4 เป็นโปรแกรมใช้สำหรับการเทรดซึ่งโบรกเกอร์โดยส่วนใหญ่ก็จะรองรับ MT4 รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่http://www.metaquotes.net/en/metatrader4/trading_terminal
สำหรับคู่มือการใช้งานภาษาไทยสามารถเข้าไปดูได้ที่https://www.facebook.com/note.php?note_id=312510768764540

Expert Advisor (EA)
เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาใน MetaEditor (เปิดได้โดยกด F4 ที่ MT4) ที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ MT4 ทำการซื้อขายตามเงื่อนไขที่เราเขียนไว้ในโปรแกรมให้อัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เราไม่ต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา

Scalping คืออะไร
เข้าไปอ่านบทความได้ที่ https://www.facebook.com/note.php?note_id=229249743757310

Hedge คืออะไร
การเทรดแบบ Hedge คือการเปิดออเดอร์ทั้งซื้อและขายที่สกุลเงินเดียวกันเวลาเดียวกัน

Requote คืออะไร
เข้าไปอ่านบทความได้ที่ https://www.facebook.com/note.php?note_id=220162991332652

Introducing Broker (IB) คืออะไร
IB คือ ตัวแทนของ FXClearing ซึ่งจะเป็นผู้แนะนำการลงทุน Forex ให้กับผู้ที่สนใจลงทุน และมีหน้าที่ให้คำปรึกษาต่างๆรวมถึงคอยช่วยเหลือนักลงทุนเพื่อให้ได้รับบริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดย IB ก็จะได้รับรายได้ค่าคอมมิชชั่นจาก FXClearing เมื่อผู้ที่ IB แนะนำมีการเทรด ซึ่งท่านสามารถสมัครเป็น IB ได้ที่ http://th.fxclearing.com/become-ib และยังสามารถโฆษณาโปรโมชั่นจากหน้า Facebook FXClearing Thailand นี้ได้ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่https://www.facebook.com/fxclearingthailand/app_203351739677351

การเทรดผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต
สามารถเทรดผ่านโทรศัพท์ iPhone, Android หรือ Blackberry ได้ฟรี รายละเอียดเข้าไปดูได้ที่ http://th.fxclearing.com/mobile-trading

VPS คืออะไร
VPS คือ เครื่อง Server ที่เราสามารถเอาไว้ใช้เทรดหรือรัน EA โดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก็จะเป็นการป้องกันการไฟดับหรืออินเตอร์เนตหลุดในกรณีที่เราเทรดหรือรัน EA ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอง นอกจากนี้ยังช่วยในการเทรดผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตต่างๆด้วย ซึ่งทาง FXClearing ก็มีบริการใช้ VPS ฟรี สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://th.fxclearing.com/vps-server

เลือกบัญชี FXClearing ประเภทไหนดี
FXClearing มีบัญชีหลายประเภทให้เลือก แต่ละบัญชีก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน สามารถเข้าไปอ่านบทความสรุปของแต่ละบัญชีได้ที่ https://www.facebook.com/note.php?note_id=273301632685454

SpyLove.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น